วิเคราะห์วิจารณ์


คุณค่าด้านเนื้อหา 
                มงคลสูตรคำฉันท์  เป็นวรรณคดีที่มีเนื้อหาเป็นคำสอนทางพระพุทธศาสนา  ว่าด้วยเรื่องของ  มลคล ๓๘  ประการ  ซึ่งเป็นคำสอนที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นจริงได้  โดยเน้นว่า การปฏิบัติด้วยตนเอง เป็นลำดับจากง่ายไปยาก  และถ้าหากปฏิบัติได้แล้ว  จะทำให้ชีวิตมีแต่ความก้าวหน้าและผาสุก  โดยไม่ต้องอาศัยปัจจัยใดๆ ภายนอก  เนื่องจากการปฏิบัติด้วยตนเองย่อมมอบความเป็นมงคลที่แท้จริงให้แก่ชีวิต  ซึ่งนอกจากจะนำพาชีวิตของแต่ละคนไปในทางที่เจริญแล้ว  ยังพลอยทำให้สังคมโดยรวมสงบสุขและเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย
                นอกจากนี้คำสอนในมงคล ๓๘ ประการ  ยังเป็นแนวทางที่ทุกคนสามารถปฏิบัติได้ด้วยมีความสอดคล้องกับการดำเนินชีวิตในทุกช่วงวัย  โดยเริ่มต้นจากระดับพื้นฐานที่สำคัญ คือ การคบคน  ดังความที่ว่า
(๑)          อเสวนา    พาลานํ                                             ปณฺฑิตานญฺจ  เสวนา
                                ปูชา    ปูชะนียานํ                                              เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
                                หนึ่งคือบ่คบพาล                                                 เพราะจะพาประพฤติผิด
                                หนึ่งคบกะบัณฑิต                                               เพราะจะพาประสบผล
                                หนึ่งกราบและบูชา                                             อภิบูชนีย์ชน
                                ข้อนี้แหละมงคล                                                 อดิเรกอุดมดี
                คำประพันธ์บทนี้กล่าวถึงมงคลประการที่ ๑ ถึง ๓ ซึ่งเป็นข้อแนะนำเกี่ยวกับการคบคนหรือการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลที่อยู่รอบข้างหรือที่อยู่ร่วมสังคมเดียวกัน  ตั้งแต่การให้หลีกเลี่ยงจาก    คนพาล  การสมาคมกับคนดี  และการมีสัมมาคารวะต่อบุคคลที่พึงเคารพ  ซึ่งล้วนแต่เป็นพื้นฐานที่สำคัญสำหรับทุกคน  เนื่องจากการที่เราคบเช่นใด  โอกาสที่จะทำให้เรากลายเป็นคนเช่นนั้นหรือมีพฤติกรรมที่คล้ายคลึงกัน  ย่อมเป็นไปได้มาก  และนอกจากการรู้จักเลือกคบคนแล้ว  การมี     สัมมาคารวะหรือการรู้จักเคารพนบนอบต่อบุคคลที่ควรบูชาหรือที่ควรนับถือ  ย่อมทำให้เราเป็นที่รักใคร่เอ็นดูของบุคคลทั่วไป  และยังได้รับความเมตตาหรือคำแนะนำที่ดีและที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตอีกด้วย
                นอกจากมงคลสูตรคำฉันท์จะมีการแปลและเรียบเรียงเนื้อความจากคาถาภาษาบาลีแล้ว  พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงอธิบายขยายความมงคลในแต่ละข้อเพิ่มเติมเพื่อให้เข้าใจความหมายได้อย่างชัดเจน  เช่น  ในคาถาที่ ๗ กล่าวถึงมงคลข้อที่ ๒๒ คือ มีความเคารพ   พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวได้ทรงอธิบายได้ชัดเจนขึ้นว่า ควรมีความเคารพผู้ใด และในมงคลข้อที่ ๒๔ มีความสันโดษ ได้ทรงอธิบายเพิ่มเติมว่ามีความหมายอย่างไร


(๗)         คารโว    นิวาโต                                             สนฺตุฎฺฐี    กตญฺญุตา
                                กาเลน  ธมฺมสฺสวนํ                                             เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ
                                เคารพ    ผู้ควร                                                 จะประณตและนอบศีร์
                                อีกหนึ่งมิได้มี                                                       จะกระด้างและจองหอง
                                ยินดี    ของตน                                                 บ่มิโลภทะยานปอง            
                                อีกรู้คุณาของ                                                        นรผู้ประคองตน
                                ฟังธรรมะโดยกา -                                              ละเจริญคุณานันท์
                                ข้อนี้แหละมงคล                                                 อดิเรกอุดมดี
                สำหรับมงคลในบทอื่นๆ เป็นข้อแนะนำที่สอดคล้องไปตามวัยและวุฒิภาวะ ตั้งแต่การปฏิบัติตนที่เป็นมงคลเมื่ออยู่ในช่วงวัยที่จะต้องศึกษาเล่าเรียนวิชา  เมื่อมีหน้าที่การงาน  เมื่อมีครอบครัว เรื่อยไปจนถึงวัยที่ควรละวางจากกิจกรรมทั้งหลาย  เพื่อแสวงหาสัจธรรมในบั้นปลายของชีวิต  จนท้ายที่สุดสามารถละกิเลสอันเป็นเหตุแห่งความทุกข์ทั้งปวงเพื่อมุ่งสู่ความสงบสุขที่แท้จริง  คือ  การหลุดพ้นจากการเวียนว่ายในวัฏสงสารซึ่งเป็นอุดมคติสูงสุดของพระพุทธศาสนา
                อย่างไรก็ตาม  ไม่ว่าจะอยู่ในช่วงวัยใด  ย่อมสามารถนำมงคลแต่ละข้อไปปฏิบัติได้โดยให้มีความเหมาะสมแก่กาลเทศะ กำลังสติปัญญา และความสามารถของแต่ละคน

คุณค่าด้านวรรณศิลป์
                เนื้อความในมงคลสูตรคำฉันท์  แม้จะมีที่มาจากคาถาบาลีและมีคำศัพท์ในทางพระพุทธศาสนาอยู่เป็นอันมาก  แต่ก็เป็นคำที่เข้าใจความหมายได้ไม่ยาก  เช่น  โสตถิ  ภควันต์  อภิบูชนีย์ชน  เป็นต้น
                นอกจากนี้พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงสามารถถ่ายทอดและเรียบเรียงเนื้อความเป็นภาษาไทยได้อย่างเรียบง่าย  แต่มีความไพเราะสละสลวย  และสามารถสื่อความหมายได้อย่างชัดเจน  ดังเช่น
ครั้งนั้นแลเทวดา                                                 องค์หนึ่งมหา
                                นุภาพมหิทธิ์ฤทธี
                                ล่วงประถมยามราตรี                                          เธอเปล่งรัศมี
                                อันเรืองระยับจับเนตร
                                แสงกายเธอปลั่งยังเขต                                       สวนแห่งเจ้าเซต
                                สว่างกระจ่างทั่วไป
                                องค์ภควันต์นั้นไซร้                                            ประทับแห่งใด
                                ก็เข้าไปถึงที่นั้น ฯ
                                ครั้นเข้าใกล้แล้วจึ่งพลัน                                     ถวายอภิวันท์
                                แต่องค์สมเด็จทศพล          
                                แล้วยืนที่ควรดำกล                                              เสงี่ยมเจียมตน
                                แสดงเคารพนบคีร์
                                                                                                                                      
                ข้อความข้างต้นเป็นบทประพันธ์ที่มีถ้อยคำเรียบง่าย  แต่สามารถบรรยายให้เห็นถึง  มหิทธานุภาพของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าที่ยิ่งใหญ่กว่าสิ่งใด  แม้แต่เทวดาซึ่งมีฤทธิ์และมีรัศมีเปล่งประกายสว่างไสวไปทั่วเชตะวันมหาวิหาร  ก็ยัง ถวายอภิวันท์ แต่ สมเด็จทศพล  หรือพระพุทธเจ้า ด้วยความ เสงี่ยมเจียมตัว
                พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวยังทรงเลืกสรรถ้อยคำได้สอดคล้องกับลีลาจังหวะของบทประพันธ์  โดยเฉพาะฉันท์  ซึ่งมีเกณฑ์ที่สำคัญคือเรื่องเสียงหนัก เบาของคำหรือ ครุ ลหุ  ด้วยการซ้ำคำ  เช่น  ซ้ำคำว่า อีก  ทำให้เนื้อความของมงคลแต่ละข้อเด่นชัดและผู้อ่านสามารถลำดับความและเข้าใจเนื้อหาของบทประพันธ์ในแต่ละวรรคได้เป็นอย่างดี
                ตัวอย่างการซ้ำคำว่า อีก

                                ความได้สดับมาก                 และกำหนดสุวาที
                                อีกศิลปะศาสตร์มี                                จะประกอบมนุญการ
                                อีกหนึ่งวินัยอัน                                    นรเรียนและเชี่ยวชาญ
                                อีกคำเพระบรรสาน                            ฤดิแห่งประชาชน
                                ทั้งสี่ประการล้วน                                จะประสิทธิ์มนุญผล
                                ข้อนี้แหละมงคล                                 อดิเรกอุดมดี                  


คุณค่าด้านสังคม
                มงคลสูตรคำฉันท์  เป็นวรรณคดีที่มีมาจาก มงคลสูตร ซึ่งเป็นคำสอนในทางพระพุทธศาสนาที่ทุกคนโดยเฉพาะพุทธศาสนิกชน  เมื่อได้นำไปปฏิบัติแล้ว  ย่อมจะทำให้ชีวิตประสบกับ มงคล หรือความสุขอย่างแท้จริง  เนื่องจากแนวทางต่างๆ ที่ปรากฏอยู่ในมงคลสูตรทั้ง ๓๘ ประการ  เน้นไปที่การนำไปปฏิบัติให้บังเกิดผลเป็นรูปธรรมด้วยตนเองเป็นสำคัญ  นอกจากนี้หากทุกคนได้ยึดถือเป็นแนวทางในการดำเนินชีวิตอย่างเหมาะสม  ย่อมส่งผลให้สังคมเจริญก้าวหน้าตามไปด้วย